Blog Master

My photo
Bangkok, Thailand ชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก This present life is so miniscule in scope and so small Lives of all kinds whether humans or animals do not exist only in the present existence, but they also have past and future ones. This short life means that the present existence is a bit brief and so miniscule. Life , of course, is subject to ageing . The present existence of each individual does not exceed one hundred years in terms of the average age. It is a very short period when compared with the past uncountable existences and those in the future. When the sages or learned persons utter that this present life is so unfocused , they are comparing it with past and future uncountable existences . Those people of incomplete understanding can not be delivered from suffering
.......................................................................................................................................BuddhistRhythm .....................................................................................................................................................................................เพลงระฆังธรรม.................. ...................................................................................................................คำร้อง / ทำนอง : พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ........................................................................................ขับร้อง : ชินกร ไกรลาศ .........................................................................................................................เหง่งหง่างระฆังวังเวงมา................................................. สาธุชนเจ้าข้า................................................ได้ยินระฆังหรือเปล่า ....................................................................ระฆังเสียงเย็น พระธรรมแผ่เห็นเป็นร่มเงา............................................................. ปุถุชนที่ร้อนเร่า............................... ก็ยังคงเร่าคงร้อน................................................................................................................................เหง่งหง่างระฆังวังเวงลอย................ เหมือนไล่ความทรามถ่อย .......................................................ที่คอยผลาญใจคนกร่อน................................................. วัดวาเหงาไป .............เพราะคนห่างไกลเหมือนตัดรอน........................................ เสียงสวดโหยโรยอ่อน..................................... หนุ่มสาวง่วงนอน ไม่อยากฟัง.......................................................... มี..แต่..คนแก่............................ตั้งใจแน่นิ่งสดับ ...................................................ซึ้งพระธรรมสงบระงับ ..........................................ดับเพลิงโลกีย์พ่ายพัง................................................................ สืบกาลต่อไป ...........................คิดแล้วหัวใจช่างเหงาจัง ............................หนุ่มๆสาวๆรุ่นหลัง ..................................จะมีใครฟังพระเทศน์กันเล่า ............................................................................................เหง่งหง่างระฆังวังเวงมา .........................สาธุชนเจ้าข้า................ได้ยินระฆังหรือเปล่า......................................................... ระฆังเสียงเย็น .............พระธรรมแผ่เห็นเป็นร่มเงา .....................พลิ้วแผ่วมาเบาๆ ...................เสียงพระคุณเจ้าท่านสวดมนต์.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................เหง่งหง่างระฆังวังเวงมา................................................. สาธุชนเจ้าข้า................................................ได้ยินระฆังหรือเปล่า ....................................................................ระฆังเสียงเย็น พระธรรมแผ่เห็นเป็นร่มเงา............................................................. พลิ้วแผ่วมาเบาๆ ........เสียงพระคุณเจ้าท่านสวดมนต์ ..................... .......

Thai Buddhist

"การทำบุญจะต้องใช้เงินกันมากๆ ยิ่งทำมากยิ่งได้บุญมาก ความเชื่อเช่นนี้นับว่าไกลจากพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างน่าเป็นห่วง ในการทำบุญที่แท้ตามหลักพระพุทธศาสนานั้น แม้ไม่ใช้เงินเลย ไม่มีเงินเลย ทุกคนก็มีสิทธิทำบุญหรือเข้าถึงบุญได้อย่างทัดเทียมกันและบุญสูงสุดก็คือบำเพ็ญจิตภาวนาเพื่อให้เกิด ปัญญา การทำบุญจึงต้องมาเชื่อมกับ ปัญญา เสมอ และเราจะเห็นได้จากมรรควิธี ในการทำบุญ ต่อไปนี้

มรรควิธีในการทำบุญ ๑๐

1. ทำบุญด้วยการ "แบ่งปัน" วัตถุ สิ่งของ ปัจจัยสี่

2. ทำบุญด้วยการ "รักษาศีล"

3. ทำบุญด้วยการ "เจริญจิตภาวนา"

4. ทำบุญด้วยการ "อ่อนน้อมถ่อมตน"

5. ทำบุญด้วยการ "เสียสละช่วยงานคนอื่น บริการสังคม"

6. ทำบุญด้วยการ "เฉลี่ยความดีให้คนอื่นได้ชื่นชม"

7. ทำบุญด้วยการ "อนุโมทนา ชื่นชมความสุข ความก้าวหน้าของคนอื่น"

8. ทำบุญด้วยการ "ฟังธรรม ศึกษาหาความรู้ที่มีสารประโยชน์ต่อชีวิต"

9. ทำบุญด้วยการ "แสดงธรรม แจกจ่ายธรรมทาน วิทยาทาน"

10. ทำบุญด้วยการ "มีสัมมาทัศนะ เชื่อกฏแห่งกรรม เชื่อตามหลักเหตุผล"





Wednesday, December 22, 2010

พระคาถาชินบัญชร Jhinnabunchorn Gatha

.

Lyric

NAMOTASA PAKAVATO ARAHATO SAMMA SAMPHUTASA ( #3 )
1. CHAYASANAGATA BUDDHA CHETTAVA MARANG SAVAHANANG
JATUSAJJASAPANG RASANG YE PEVINGSU NARASAPA.
2. TANHANKARATHAYO PUTTHA ATTHAVISATINAYAKA
SABBE PATTHITA MAIHANG MATTHAKE TE MUNISSRA.
3. SISE PATITTHITO MAIHANG PUDDHO DHAMMO THAVIROJANE
SANGKO PATITHIYO MAIHANG URE SAPPAKUNAGARO.
4. HADAYE ME ANURUTTHO SARIBUDTO JA TAKKHINE
KONTHUNYO BITTHIPAKASMING MOKKANRANO JA VAMAKE.
5. TAKKINESAVANE MAIHANG ASUNG ANANTHARAKHULO
KASSAPO JA MAHANAMO UPHASUNG VAMASUTAKE.
6. KESATO BITTHIPHAKAS MING SURIYO VA PAPANGARO
NISINNO SIRISAMBANNO SOPHITO MUNPIBUNGAVO.
7. KUMARAKASSABHO THERO MAHESI JITTAVATHAGO
SO MAIHANG VATHANE NICHJANG BATITHASI KUNAKARO.
8. BUNNO ANGULIMALI JA UPALI NANTHASIVALI
THERA BANJA IME CHATA NALATE TILAKA MAMA.
9. SESASITI MAHATHERA VICHITA CHINASAVAKA
ATESITI MAHATHERA CHITAVANTO CHINORASA.
10. RATANANG PURATO ASI TAKKINE METTASUTTAKANG
TACHUKKANG PAICHATO ASI VAME ANGULIMALAKANG.
11. KHANTHAMORA PARITTNAJA ATANATIYASUTTAKANG
AKASE CHATHANANG ASI SESA PAKARASANTHITA.
12. CHINA NANAVARASANGYUTTA SATTAPPAKARALANGKATA
VATAPIDTHATHISANCHATA PHAHIRATCHADTUPATTHAVA.
13. ASESA VINAYUNG YANTU ANANTACHINATECHASA
VASATO ME SAKITJENA SATHA SAMPHUTTHAPANCHARE.
14. CHINAPANCHARAMADCHAMHU VIHARANTANG MAHITHARE
SATHA PALENTU MANG SAPPE TE MAHAPURISASAPHA.
15. ITJEAMANTO SUKUTTO SURAKKHO
CHINANUPAVENA CHITUPADTHAVO
THAMMANUPHAVENA CHITARISANGKO
SANGKANUPAVENA CHITANTARAYO
SATTHAMMANUPAVAPALITO JARAMI CHINAPANCHALETI.

คำแปล(mean in Thai langue)
1 สมเด็จพระนราสภสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดขณะเมื่อประทับอยู่ ณ แท่นพุทธชัยอาสน์ ทรงได้ชัยชนะแก่พระยามาราชาธิราชกับทั้งหมู่บริพารแล้ว ได้ตรัสรู้ดื่มรสพระจตุราริยสัจอันประเสริฐสมดังพระพุทธประสงค์

2 ขออัญเชิญสมเด็จพระบรมนายก สัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่านั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่ามุนีทั้งปวง มีจำนวนรวมเป็น 28 พระองค์ มีสมเด็จพระตัณหังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นต้น จงเสด็จมาอยู่ ณ เบื้องบนกระหม่อมจอมขวัญของข้าพเจ้า

3 ขออัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงเสด็จมาสถิตอยู่เบื้องบนศรีษะของข้าพเจ้า ขออัญเชิญพระธรรมจงมาสถิตอยู่ในดวงเนตรของข้าพเจ้า ขออัญเชิญพระอริยสงฆ์ผู้เป็นบ่อเกิดแห่งคุณงามความดีทั้งปวง จงมาสถิตอยู่ ณ กลางใจของข้าพเจ้า

4 ขออาราธนาพระอนุรุทเถรเจ้า จงมาสถิตอยู่ในดวงหฤทัยของข้าพเจ้า พระสารีปุตตเถรเจ้าจงมาสถิตอยู่ ณ ส่วนเบื้องขวา พระอัญญาโกณฑัญญเถรเจ้าจงมาสถิตอยู่ ณ ส่วนเบื้องหลัง พระมหาโมคคัลลานเถรเจ้าจงมาสถิตอยู่ ณ ส่วนเบื้องซ้าย

5 ขออาราธนาพระอานนท์เถรเจ้า กับพระราหุลเถรเจ้าจงมาสถิตอยู่ ณ โสตเบื้องขวา พระมหากัสสปเถรเจ้ากับพระมหานามเถรเจ้า จงมาสถิตอยู่ ณ โสตเบื้องซ้าย

6 อัญเชิญสมเด็จพระโสภีตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นมหามุนีชั้นยอดเยี่ยม ทรงเต็มเปี่ยมด้วยพระพุทธสิริ ทรงรัศมีแจ่มจ้าดุจดวงพระอาทิตย์ จงเสด็จมาประทับนั่งสถิตอยู่ ณ ชายผมส่วนเบื้องหลังของข้าพเจ้า

7 ขออาราธนาพระกุมารกัสสปเถรเจ้า ซึ่งเป็นผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ มีวาจาอันไพเราะเป็นบ่อเกิดแห่งคุณงามความดี จงมาสถิตอยู่ที่ปากของข้าพเจ้าเป็นนิจนิรันดร์

8 ขออาราธนา พระมหาเถรเจ้าทั้ง 5 พระองค์เหล่านี้ คือ พระองคุลิมาลเถรเจ้า พระอุบาลีเถรเจ้า พระปุณณเถรเจ้า พระอานนทเถรเจ้า และพระสีวลีเถรเจ้า จงมาบังเกิดเป็นรอยริ้วอยู่ ณ ที่ตรงหน้าผากของข้าพเจ้า

9 ขออาราธนาหมู่พระพุทธชิโนรส ชั้นพระมหาเถรทั้งหลาย 80 องค์ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ชนะข้าศึกกิเลส รุ่งเรืองอยู่ด้วยเดชแห่งศีล จงมาสถิตดำรงอยู่ทั่วองค์ อวัยวะน้อยใหญ่ของข้าพเจ้า

10 ขอพระรัตนสูตร จงมาสถิตอยู่เบื้องหน้าของข้าพเจ้า พระเมตตาสูตรจงมาสถิตอยู่ ณ ส่วนเบื้องขวา พระธชัคคสูตรจงมาอยู่ ณ เบื้องหลัง พระอังคุลิมาลสูตรจงมาสถิตอยู่ ณ เบื้องซ้าย

11 ขอพระขันธปริต พระโมรปริต และพระอาฎานาฎิยสูตร จงสำเร็จเป็นหลังคากางกั้นอยู่เบื้องบนอากาศ ครอบศรีษะข้าพเจ้า พระปริตและพระสูตรที่เหลือจากนี้ กำหนดหมายเป็นปราการคุ้มครองข้าพเจ้า

12 เมื่อข้าพเจ้าประกอบการงานของตนอยู่ในขอบเขตของธรรมะแห่งองค์สมเด็จพระชินสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเปรียบประดุจปราการ 7 ชั้น ประกอบด้วยพุทธอาณาและพลานุภาพอันมั่นคงในกาลทุกเมื่อเช่นนี้

13 ขอให้อุปัทอันตรายทั้งหลาย ทั้งภายนอกและภายในอันเกิดจากเหตุต่างๆ มีโรคลมและน้ำดีเป็นต้น จงถึงซึ่งความพินาศดับสูญไปโดยสิ้นเชิง ด้วยเดชานุภาพของพระชินสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด

14 ขอสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหมู่อริยสาวกทั้งหลาย ซึ่งล้วนแต่เป็นมหาบุรุษอันประเสริฐทุกๆพระองค์ จงช่วยรักษาข้าพเจ้าผู้อยู่ ณ พื้นโลก ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบในธรรมะของพระองค์ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ

15 ด้วยประการฉะนี้ อันข้าพเจ้าได้ดูแลรักษาตนไว้ดีแล้ว และด้วยอานุภาพแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าจงมีชัยแก่อุปัทวะทั้งปวง ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอให้ข้าพเจ้าจงมีชัยชนะแก่ศัตรูหมู่อริทั้งปวงด้วยเถิด ด้วยอานุภาพแห่งพระอริยสงฆ์ ขอให้ข้าพเจ้าจงมีชัยชนะแก่อันตรายทั้งปวง ข้าพเจ้าเป็นผู้รับอานุภาพอันศักดิ์สิทธ์ แห่งพระธรรมที่คุ้มครองรักษา แล้วจะประพฤติปฎิบัติตน
อยู่ภายใต้ศีลธรรมอันดีงาม ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดไปฉะนี้แล/

No comments: